คำนำ

Do you speak Jeun'Est คืออะไร?

ด้วย Do you speak Jeun'Est เป็นเรื่องง่ายและสนุกในการพัฒนาความก้าวหน้าในการเรียนภาษาใหม่ ต้องขอบคุณวิดีโอจริง ได้รับการออกแบบโดยทีมงานที่มีความชำนาญในหลายสาขาของสื่อและวิดีโอเกมระดับนานาประเทศ ได้รับความร่วมมือจากครูสอนภาษาและนักวิจัยด้านประสาทวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการรับรู้ Do you speak Jeun'Est คือการปฏิวัติวิธีการเรียนภาษาใหม่ของผู้คนด้วยวิธีการทางครุศาสตร์ซึ่งให้ทั้งความบันเทิงและมีประสิทธิภาพ

- Video Boosters: บทเรียนจากวิดีโอกว่า 1500 รายการที่สร้างขึ้นโดยครูสอนภาษา ทั้งหมดสร้างจากเนื้อหาจริง เช่น คลิปจากหนัง ทีวีซีรีย์ ข่าวทีวี มิวสิกวิดีโอ และสารคดีที่เป็นปัจจุบันและออกเมื่อไม่นานมานี้...
- Photo Vocabs: พจนานุกรมเสมือนในรูปแบบของเกมที่ครอบคลุมกว่า 400 หัวข้อเพื่อช่วยให้รู้จักคำศัพท์ในสาขาเฉพาะเพิ่มมากขึ้น
- Starter Labs: แอนนิเมชันนำทางหลักสูตรจาก 20 บทเรียนเพื่อเริ่มต้นบนรากฐานที่ถูกต้องของการเรียนรู้ภาษาใหม่
- Skill Boosters: คอลเลกชันบทเรียน 33 บทเรียนจากวิดีโอที่สร้างขึ้นโดย YouTubers เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถรับมือกับสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวันและภาษาที่ใช้ในงานอาชีพได้ด้วยความมั่นใจ

หน่วยการเรียนรู้ประเภทต่างกันเหล่านี้นำเอาวิดีโอและเกมมารวมเข้าด้วยกันในรูปแบบของประสบการณ์ที่ชวนดำดิ่งและกระตุ้นความสนใจ มีการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเรียนแบบเซสชันฝึกภาษาสั้น ๆ เป็นประจำทุกวัน และมีการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ที่ลงทะเบียนในสถาบันการศึกษา สร้างนวัตกรรมประสบการณ์การเรียนรู้ที่ทำให้จดจ่ออยู่กับภาษาและวัฒนธรรมของภาษาที่เรียนอยู่

Do you speak Jeun'Est เสนอโอกาสในการทำการทดสอบประเมินที่มีการปรับให้เข้ากันที่มีการปรับวัดตามกรอบมาตรฐานของ Common European Framework of Reference for Languages (CEFR)

สิ่งที่ควรรู้: Do you speak Jeun'Est มีการออกแบบเว็บไซต์ที่ตอบสนองดีเยี่ยม ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์เชื่อมต่อทุกประเภท (เดสก์ท็อป แล็ปท็อป แท็บเล็ต และมือถือ)

ทำไมจึงใช้วิดีโอที่ใช้ได้จริงในการเรียนภาษา?

วิดีโอจริง (คลิปจากหนัง ทีวีซีรีย์ ข่าวทีวี มิวสิกวิดีโอ...) ซึ่งจะดึงดูดอารมณ์ความสนใจของนักเรียนได้โดยตรง ดังนั้นมันจึงเป็นการปลดล็อกเงื่อนไขของการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีการลงประกาศหน่วยการเรียนรู้ด้วยวิดีโอใหม่ ๆ บน Do you speak Jeun'Est ทุกสัปดาห์ ดังนั้นการตามกระแสปัจจุบันด้วยข่าวสารและเทรนด์ต่าง ๆ จึงเป็นการสะท้อนนักเรียนด้วยสภาพแวดล้อมของพวกเขาและสื่อโซเชียลมีเดีย ความสัมพันธ์นี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักเรียนจึงต้องการวิดีโอของจริงมากกว่าวิดีโอที่สร้างเลียนแบบสถานการณ์จริงในการใช้ภาษา

วิธีการของเราจะทำให้เกิดการจดจ่ออยู่กับการเรียนภาษาและวัฒนธรรม นอกจากจะได้ประโยชน์ทางด้านภาษาแล้ว วิดีโอจริงยังให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ในส่วนของบริบททางบรรทัดฐานสังคมและวัฒนธรรมของภาษา ทั้งในแบบทั่วไป (สามารถนำไปใช้ได้กับการพูดภาษาในทุกประเทศ) และในบริบทเฉพาะ (สามารถนำไปใช้ได้ในภูมิภาคเฉพาะ หรือระดับการใช้ภาษาเฉพาะ) นี่เป็นการตอกย้ำไอเดียที่ว่าความเชี่ยวชาญด้านภาษาไม่ใช่เพียงแค่ความชำนาญด้านระบบคำและการสร้างประโยคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านสังคมและวัฒนธรรมของภาษาด้วย

เนื่องจากผู้สร้างวิดีโอเพื่อความบันเทิงพยายามที่จะอธิบายภาษาว่าเป็นภาษาที่ใช้พูดกันจริง ๆ และเป็นธรรมชาติเหมือนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (สำเนียง จังหวะการพูด การเลือกใช้คำ) วิดีโอจริงบน Do you speak Jeun'Est จึงช่วยให้นักเรียนคุ้นเคยกับจังหวะในการพูด ฉันทลักษณ์และระดับการใช้ภาษาที่หลากหลายที่พวกเขาจะได้พบเจอในภาษา รวมกับแบบฝึกหัดที่มีโครงสร้างที่ดี วิธีการนี้จึงช่วยให้นักเรียนยอมรับว่าไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำ หรือทุกสำนวนในบทสนทนาเพื่อให้เข้าใจความหมายของมันและสร้างการสื่อสาร

เราเป็นใคร?

Do you speak Jeun'Est เป็นบริการของแคว้นกร็องแต็สต์ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยหุ้นส่วนบริษัทของ:
• Entertainment Learning, บริษัท EdTech ผู้อยู่เบื้องหลังบริการอย่าง English Attack  และ Lingua Attack 
•  Humensis กลุ่มลงประกาศซึ่งประกอบด้วยสำนักพิมพ์เอกสารวิชาการ Belin
• Global Exam บริษัทสตาร์ตอัปที่มีความเชี่ยวชาญในการทดสอบภาษา

ความสามารถในการเข้าถึง

ทุก ๆ ความพยายามเพื่อทำให้ Do you speak Jeun'Est มีความพิเศษเฉพาะ; การใช้เมนูที่สามารถเข้าถึงได้ คุณสามารถปรับเปลี่ยนโหมดและแบบตัวอักษรบนเว็บไซต์ได้ เป็นความจริงที่รูปแบบอักษรที่ต่างกันจะช่วยปรับปรุงผลการเรียนรู้ให้ดีขึ้นได้สำหรับผู้เรียนที่มีปัญหาในการอ่านเขียน เป็นต้น

CEFR คืออะไร?

สร้างขึ้นโดย Concil of Europe ในปี 2001 โดย Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) จะกำหนดระดับความชำนาญทางภาษาต่างประเทศจากทักษะความรู้ในห้าส่วนสำคัญ CEFR มีการให้ข้อมูลรายละเอียดอย่างมาก และยังสามารถใช้กับภาษาต่าง ๆ ได้มากมาย ระดับทักษะความชำนาญมีตั้งแต่ผู้เริ่มเรียน (A1) ไปจนถึงระดับขั้นสูง (C2) ทุกวันนี้ระดับความชำนาญเหล่านี้ใช้เพื่อเป็นคะแนนอ้างอิงในการเรียนการสอนภาษาในหลาย ๆ ประเทศ ในฝรั่งเศส มีการนำ CEFR มาใช้ใน Education Code สำหรับการสอนภาษา และใช้ในการประเมินทักษะภาษาต่างประเทศของนักเรียนในโรงเรียน การศึกษาระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย

ตามกฎทั่วไป นักเรียนควรจะมีทักษะภาษาของสองภาษาสมัยใหม่ในระดับ A2 และในช่วงจบมัธยมนักเรียนควรจะมีความรู้ทางด้านภาษาสมัยใหม่ 1 ในระดับ B2 และ มีความรู้ทางด้านภาษาสมัยใหม่ 2 ในระดับ B1